เวลาที่เราออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬาที่ต้องมี การปะทะเกิดขึ้น อาจส่งผลทำให้เกิดการบาดเจ็บที่ หัวเข่าได้ ในบางครั้งอาจเป็นการบาดเจ็บเล็ กน้อย หรือถึงขั้นรุนแรงก็เป็นได้ ยกตัวอย่างเช่น เส้นเอ็นไขว้หน้า หรือหลังหัวเข่าบาดเจ็บ, หมอนรองข้อเข่าฉีกขาด, การอักเสบของถุงน้ำลดการเสียดสี ในเข่า หรือ กระดูกหัก
ในบทความนี้เราจะมาโฟกัสกันที่ เส้นเอ็นไขว้หน้าหัวเข่าบาดเจ็บ หรือที่เรียกว่า Anterior cruciate ligament injury (ACL injury) ในทางกายวิภาคศาสตร์เส้นเอ็ นไขว้หน้าหัวเข่าจะอยู่บริ เวณตรงกลางของหัวเข่า โดนจะเกาะจากกระดูกต้นขา หรือ Femur ไปที่กระดูกหน้าแข้ง หรือ tibial ซึ่งเส้นเอ็นไขว้หน้าหัวเข่ าจะทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้กระดู ก Tibial เคลื่อนที่ไปข้างหน้าภายใต้ กระดูก Femur และทำหน้าที่ให้ความมั่นคงของข้ อเข่า ในขณะที่บิด หรือหมุนข้อเข่า ถ้าเส้นเอ็นไขว้หน้าหัวเข่ าบาดเจ็บ จะส่งผลต่อความมั่นคงของข้อเข่า ปวด บวมบริเวณหัวเข่า ในบางรายที่มีอาการบาดเจ็บรุ นแรงอาจจะส่งผลถึงการฉี กขาดของหมอนรองข้อเข่าฉีกขาดร่ วมด้วย
โดยปกติแล้วการบาดเจ็บของเส้ นเอ็นไขว้หน้าหัวเข่ามักจะเกิ ดขึ้นขณะที่เล่นกีฬาอย่าง ฟุตบอล บาสเกตบอล วอลเลย์บอล หรือในขณะที่ทำกิจกรรมอย่างวิ่ง กระโดด หรือเตะ แล้วมีการเปลี่ยนทิศทางกะทันหัน การบาดเจ็บของเส้นเอ็นไขว้หน้ าหัวเข่าเกิดได้ 3 รูปแบบ
รูปแบบที่ 1: การปะทะโดยตรง (Direct contact)
เกิดจากการที่มีแรงจากภายนอกเข้ ามาปะทะโดยตรงที่บริเวณหัวเข่า
รูปแบบที่ 2: การปะทะโดยอ้อม (Indirect contact)
เกิดจากการที่มีแรงจากภายนอกเข้ ามาปะทะที่บริเวณอื่นของร่างกาย แต่ไม่ได้เข้ามาปะทะโดยตรงที่หั วเข่า
รูปแบบที่ 3: ไม่ได้เกิดจากแรงปะทะ (Non contact)
เกิดจากการที่มีแรงเกิดที่ข้ อเข่าจากการเคลื่อนไหวของบุ คคลนั้น โดยที่ไม่ได้มีการปะทะกับบุ คคลอื่น หรือวัตถุใดๆ เช่น การกระโดด และมีการเปลี่ยนทิศทางไปด้ านใดด้านหนึ่งกะทันหัน จะส่งผลทำให้เกิดแรงบิดภายในข้ อเข่าขณะลงพื้น และเกิดการบาดเจ็บของเส้นเอ็ นไขว้หน้าข้อเข่าได้ ซึ่งการบาดเจ็บของเส้นเอ็นไขว้ หน้าข้อเข่ามักจะเกิดในรูปแบบที่ 3 นี้ถึง 70%
อาการ
- อาการปวด และบวมบริเวณข้อเข่า ในบางครั้งอาจเกิดภาวะเลื
อดออกภายในข้อเข่า - ได้ยินเสียง pop ในข้อเข่า ขณะเกิดเหตุ
- รู้สึกไม่มั่นคงบริเวณหัวเข่า
- ไม่สามารถวิ่งซิกแซกได้ หรือวิ่งแล้วไม่สามารถหยุดได้ทั
นที เนื่องจากรู้สึกเหมือนข้อเข่ าจะหลุด
ความรุนแรงของการบาดเจ็บ แบ่งออกมาได้ 3 ระดับ
ระดับที่ 1 มีภาวะฉีกขาดภายในเนื้อเยื่ อของเส้นเอ็น แต่เส้นเอ็นยังไม่ยืด หรือขาด (Mild)
การบาดเจ็บในระดับนี้ จะเกิดภาวะฉีกขาดภายในเนื้อเยื่ อของเส้นเอ็น ซึ่งไม่ส่งผลต่อสมรรถนะของเส้ นเอ็นไปมากนัก (function loss) มีอาการปวด บวมรอบๆหัวเข่า
ระดับที่ 2 เส้นเอ็นฉีกขาดบางส่าน (moderate or partially torn)
การบาดเจ็บในระดับนี้จะเกิ ดการฉีกขาดของเส้นเอ็นบางส่วน เสียสมรรถนะของเส้นเอ็นไปบางส่ วน รู้สึกเจ็บในขณะที่เดิน ปวด บวม มีรอยเขียวช้ำบริเวณหัวเข่า ช่วงแรกอาจรู้สึกไม่มั่นคงในหั วเข่าบ้าง
ระดับที่ 3 เส้นเอ็นฉีกขาดออกจากกันอย่ างสมบูรณ์ (severe or completely torn)
การบาดเจ็บในระดับนี้จะเกิ ดจากการฉีกขาดออกจากกันของเส้ นเอ็น ทำให้สูญเสียสมรรถภาพของเส้นเอ็ น ซึ่งมักจะมีการอาการปวด บวม มีรอยเขียวช้ำบริเวณหัวเข่า รู้สึกเหมือนข้อเข่าจะหลุดออกมา เนื่องจากขาดความมั่นคงของข้ อเข่า โดยการบาดเจ็บในลักษณะนี้มั กจะรักษาด้วยการผ่าตัด
การรักษา
การรักษาเบื้องต้น PRICE
P = Protection เป็นการป้องกันข้อต่อที่ได้รั บบาดเจ็บ โดยการดามไว้ ไม่ให้เคลื่อนไหว ยกตัวอย่างเช่น การใส่support
R = Rest เป็นการหยุดพัก หรือหยุดใช้งานบริเวณข้อเข่า หรือบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บ ยกตัวอย่างเช่น การใช้ไม้เท้าพยุง หรือใช้ crutches
I = Ice เป็นการใช้ความเย็น เข้ามาช่วยในการลดการอักเสบ ลดอาการปวด และบวม โดยการประคบเย็นในบริเวณที่มี อาการ ประมาณ 15-20 นาที 2-3 รอบต่อวัน
C = Compression เป็นการรัดรอบบริเวณที่มีอาการ หรือเกิดภาวะบวม โดยจะเป็นการใช้ผ้ายืดพันรัด หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า elastic bandages เพื่อช่วยลดอาการบวม และจำกัดการเคลื่อนไหว แต่ไม่ควรพันทิ้งไว้ในขณะที่นอน
E = Elevation เป็นการยกขาขึ้นสูง เพื่อช่วยให้เลือด และของเหลว จากบริเวณที่บาดเจ็บไหลเวียนได้ ดีขึ้น
ตัวอย่างท่าออกกำลังกายในกรณีที่ ไม่ต้องผ่าตัด
- Straight leg raise (SLR): นอนหงาย และยกขาขึ้นตรงๆ ค้างไว้ 10 วินาที ทำ 10 ครั้ง 2-3 รอบ
- Static quads: นอนหงาย ขาเหยียดตรง ให้เกร็งกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้
า คล้ายกับการกดเข่าติดเตียง แต่ไม่มีการยกส้นเท้าออกจากเตี ยง ค้างไว้ 10 วินาที ทำ 10 ครั้ง 2-3 รอบ - Heel slide: อยู่ในท่านอนหงาย ค่อยๆงอเข่าขึ้น โดยการเลื่อนเท้าเข้าหาสะโพกให้
ได้มากที่สุด ค้างไว้ 10 วินาที ทำ 10 ครั้ง 2-3 รอบ - Knee extensions: นอนหงาย ขาเหยียดตรง เอาผ้าขนหนูมาม้วนๆ แล้วนำไปวางไว้ที่ส้นเท้า ให้ขาได้มีการเหยียดสุด ค้างไว้ 5-10 นาที 2-3 ครั้ง
- Stationary bicycle (จักรยานปั่นอยู่กับที่): ปั่นจักรยาน 10-15 นาทีเพื่อเพิ่มความแข็
งแรงของกล้ามเนื้อรอบๆข้อเข่า
References
กภ. ชวิศา วศินชัชวาล