ปวดขา (Leg pain Bangkok)
ปวดขา (Leg Pain) คืออาการปวดบริเวณขาที่เกิดขึ้นซึ่งอาจเป็นบางจุดของกล้ามเนื้อขาโดยอาจมีอาการชา ปวดแปลบ หรือปวดร้าวร่วมด้วย เป็นผลมาจากการทำกิจกรรมที่ใช้ขามากเกินไป เช่น การเดินนาน ๆ หรือการออกกำลังกาย การวินิจฉัยจากแพทย์จะทำให้เข้าใจสาเหตุมากขึ้น
อาการปวดขา
ปวดขามักมีลักษณะอาการที่ต่างกันไป โดยอาจรู้สึกปวดแสบบริเวณต้นขา หน้าแข้ง หรือน่อง การปวดขาอาจเกิดขึ้นเป็นพัก ๆ หรือต่อเนื่อง และอาจดีขึ้นได้เองขณะพัก หรืออาจมีอาการอื่นเกิดขึ้นร่วมด้วย เช่น เหน็บชา ตะคริว ปวดร้าว หรือปวดตุบ ๆ เป็นต้น อาการปวดขาอาจเป็นสัญญาณของโรคต่าง ๆ ผู้ป่วยจึงควรพบแพทย์
สัญญาณอันตรายที่ผู้ป่วยควรพบแพทย์ทันที ได้แก่
- เดินไม่ได้
- เจ็บหรือปวดต้นขามาก ประกอบกับอาการบวมแดง
- มีเสียงเปราะดังขึ้นที่ขาขณะเกิดอุบัติเหต
สาเหตุของอาการปวดขา
การบาดเจ็บ การใช้ขามากเกินไป กระดูกหัก กล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นฉีกขาด คือสาเหตุหลักของอาการปวดขาเนื่องจากขามีโครงสร้างและเนื้อเยื่อจำนวนมาก
กลุ่มกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อต่อ
ตะคริว ตะคริวมีลักษณะเป็นก้อนแข็งใต้ผิวหนังและอาจมีอาการบวมแดงร่วมด้วย มักเกิดขึ้นเองโดยเฉียบพลัน โดยมีสาเหตุจากการขาดน้ำในร่างกาย กล้ามเนื้อตึงหรืออ่อนแรงจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ เป็นเวลานานหรือหนักเกินไป
การนวดกดจุดเพื่อรักษาอาการปวดขา
การนวดกดจุด ( Pressing Points)
การนวดกดจุดในคลินิกที่กรุงเทพเป็นวิธีการบำบัดรักษา และบรรเทา หรือ แก้อาการ เจ็บป่วยภายในร่างกายของมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวจีนให้การยอมรับเชื่อถือ และปฏิบัติกันมานาน และยังแพร่หลายไปทั่วโลก ทั้งในเอเชีย ยุโรปและอเมริกา
การกดจุดมีวิธีการง่ายๆ คือ “การนวดกล้ามเนื้อชั้นลึกต่างๆบนร่างกายโดยใช้นิ้วมือซึ่งอาการของคนที่ปวดบ่ามักมี มีจุดกดเจ็บที่เรียกว่า trigger point ซึ่งจะอยู่บริเวณกล้ามเนื้อต้นขาด้านหนังและด้านหลังทำให้การไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงที่กล้ามเนื้อไม่สะดวก ส่งผลให้เกิดอาการเมื่อยล้าที่น่องขา และต้นขาด้านหลัง
การป้องกันอาการปวดขา
- ควรยืดเส้นทั้งก่อนและหลังออกกำลังกาย และควรออกกำลังกาย 5 วันต่อสัปดาห์ ครั้งละ 30 นาที
- ควบคุมน้ำหนัก และรับประทานอาหารที่มีโปแตสเซียมสูง เช่น กล้วยและไก
- ใช้ไม้เท้าเพื่อช่วยพยุงกรณีที่ไม่สามารถยืนหรือเดินได้ตามปกติ
- ลุกขึ้นเดินทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง หากต้องเดินทางเป็นเวลานาน ๆ ในรถโดยสาร เครื่องบิน หรือรถไฟ เพื่อป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตัน
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ปวดขา เช่น การยืน เดินหรือใส่รองเท้าส้นสูงนาน ๆ เป็นต้น